รีวิวเกม Final Fantasy XVI

รีวิวเกม Final Fantasy XVI เชื่อว่าในเดือนมิถุนายน 2023 ผู้เล่นหลายคนตั้งตารอเกม RPG สุดคลาสสิกแห่งยุค 80 อย่าง Final Fantasy ซึ่งตอนนี้ภาคใหม่ก็ดำเนินมาถึงภาคที่ 16 แล้ว ใช่ ภาคแรกออกมา คนเขียนยังไม่เกิด แต่ความนิยมของแฟรนไชส์เกมนี้ฉันไม่สามารถเผยแพร่ได้จนถึงขณะนี้ และทุกครั้งที่ผู้พัฒนาเกมแนะนำคุณสมบัติใหม่ ผู้เล่นจะได้เห็นการปรับปรุงในด้านเทคโนโลยีเกม รูปแบบการเล่น การออกแบบตัวละคร และอื่นๆ อีกมากมาย เวอร์ชันซีรีส์พร้อมใช้งานในทุกแพลตฟอร์ม มีการพูดคุยกันแทบจะทุกครั้งที่เปิดตัวเกม และ Final Fantasy ยังได้รับฉายาที่ทุกคนพูดถึงในฐานะเกม RPG ระดับโลกอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มที่ 16 (16th) ควรถูกแทนที่ด้วยชื่อเล่นที่สวยงามสำหรับสงครามนี้ รอหลายปีเพราะเรื่องราวจะซ้ำกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปีขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่คุณสนใจ

ตอนนี้แตกต่างจากประวัติศาสตร์ยุคทองของ Final Fantasy Episode VII (7) หลายประการ ในแต่ละฤดูกาล ใครก็ตามที่สนใจในส่วนที่ 7 ควรคาดหวังว่าจะได้ดำเนินการในส่วนนี้ น้ำตาแตกแน่นอน หรือพวกที่เล่นกลุ่มอื่นหรือกลุ่มยอดนิยมอย่าง IV (4), X (10), XII (12), XV (15) ต้องรอกันนิดนึงนะครับ เพราะภาคนี้เนื้อเรื่องสร้างสถิติให้กับ M ต่างจากภาคก่อนๆ ที่มุ่งเป้าไปที่วัยรุ่น ภาคนี้จะแสดงให้เห็นถึงความเสียหายของร่างกายและจิตใจ มุมมองของผู้ใหญ่ และสัญญาณ การเติบโตของเด็ก รักสวยรักงาม สู้เพื่อเพื่อน กลุ่มนี้แหกทุกกฎจริงๆ

ผู้พัฒนาที่เข้ามาเป็นผู้อำนวยการสร้างเกม FFXIV (Final Fantasy 14) ในนาม Mr. Naoki Yoshida (นาโอกิ โยชิดะ) ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่ 16 มีนิสัยชอบพูดถึง Final Fantasy XVI (16)ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ดีหรือไม่ เพราะภาค 14 เป็นเกมออนไลน์

ใครที่เคยเล่น FFXIV จะรู้ว่า Square Enix เล่น FFXIV เป็นแพลตฟอร์ม โยชิดะมาสัมภาษณ์เพื่อคลายความสงสัย ก่อนที่ผู้พัฒนาจะมาสร้าง FFXIV ผู้เล่นจะทำ Single Game ก่อน (ไม่ต้องห่วงแฟน ๆ เป็นไปได้แล้วเราก็ทำ) จนกว่าเกมนี้จะมา เมื่อผู้เขียนลองเล่นดู ยังมีความรู้สึกว่ามีกลิ่นอายของกลุ่ม FFXIV ที่เกาะอยู่ แต่พอเล่นไปสักพักจะรู้ว่าแต่ละกลุ่ม แต่ละเกม มีคำถามอยู่ในตัว ถ้านี่คือไฟนอลแฟนตาซีจริง ๆ ที่ไม่มี Moogle, ไม่มี Chocobo, ไม่มี Eikon, ไม่มีพลังคริสตัล, ไม่ต้องสวมใส่

เนื้อเรื่อง รีวิวเกม Final Fantasy XVI

รีวิวเกม Final Fantasy XVI  ตัดมาที่ภาพเต็มของเรื่องโดยไม่มีการสปอยล์ นั่นคือ Clive Rossville มีชื่อของเด็กชาย นี่เป็นเกมเดียวที่เราเล่นได้ เรื่องราวจะเล่าถึงช่วงเวลาของเราใน 3 ฤดูกาล ช่วงวัยเยาว์ การร้องเพลง และเมื่อพร้อมที่จะออกไปในแต่ละกลุ่มเราจะต้องเผชิญอันตรายและแก้ปัญหา สืบเสาะหาความจริงและต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึงเพื่อโต้เถียงเพื่อจุดประสงค์ในการจัดระเบียบของตนเอง เพราะบัดนี้ จุดจบของประเทศได้มาถึงแล้ว ชาวเมืองก็คือคนธรรมดาที่ใช้พลังของ Mother Crystal แต่พลังของคริสตัล เป็นเหมือนคำสาป ทำให้พื้นที่โดยรอบไม่เอื้ออำนวยและกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้ใช้เวทมนตร์

จึงเกิดสงครามขึ้นและพวกเขาใช้ผู้มีอำนาจ มนุษย์สามารถกลายร่างเป็นปีศาจได้ แต่ละเมืองจะมีเพียง 1 คนต่อ 1 ธาตุเท่านั้น ใช้ในการต่อสู้ แต่ระบบการต่อต้านผู้ที่เป็นผู้ปกครองหรือร่างปีศาจในแต่ละเมืองนั้นไม่เหมือนกัน มันทำให้แต่ละคนมีความหมายและความผูกพันในจิตใจ ที่แตกต่างกันรวมถึงตัวละครหลักของเราด้วย

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น พลังของคริสตัลคุกคามผู้ที่มีพลังธรรมชาติ คนที่ไม่ทุจริตสามารถใช้ธาตุต่างๆ 1 ธาตุใน 1 พลังได้ แต่คนเหล่านี้มีจำนวนจำกัด คนเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ในแต่ละเมือง เขาเป็นคนน่ารังเกียจในสังคม คนเหล่านี้ถูกใช้เป็นทาสแรงงานเหมือนของเล่น ดังนั้นไม่ใช่ฮีโร่และเพื่อน AI ของเราที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือและปลดปล่อยทาสทั้งหมด

เรื่องราวหัก Open World เรื่องราวที่ดึงดึงและบด ดึงเราให้เดินตามแผนที่ไปโน่นไปนี่แทน แต่ก็มีจุดพักเบา ๆ ในเนื้อเรื่องให้เราแอบเล่นระหว่างทาง แม้ว่าข้างทางจะมีแต่ป่าและซากปรักหักพัง เผยให้เห็นความมืดต้นแบบ แต่ชาวเมืองก็ซุบซิบกันเรื่องความอดอยาก เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ได้ยินและไม่ได้ทำให้เกมลดลงแต่อย่างใด กดเปิดแผนที่เปิดเอง
เรื่องราวในส่วนนี้จะเน้นไปที่ธีมของดาร์คแฟนตาซีในยุคยุโรปกลาง มีคำบรรยายแปลเป็น 14 ภาษา คำบรรยาย 6 ภาษา ด้านการพัฒนาตัวเกมได้ปรับให้ใช้ภาษาที่สอดคล้องกับยุคสมัยในยุโรปกลางอย่างแน่นอน แม้แต่การทักทายตัวละครก็ออกแบบตามยุคสมัยนั้นๆ มันเน้นข้อเท็จจริงมาก

จนคนไม่เก่งภาษาเวียนหัวเหมือนผู้เขียน แต่คนเก่งภาษาคงชอบใจแน่ๆ (แต่กูไม่อยากอ่านคำแบบนี้) แต่ผู้พัฒนาก็แก้ปัญหาด้วยการแนะนำตัวละคร แนะนำสถานที่ ระหว่างตัดต่อ เพื่อให้เราเข้าใจที่มาที่ไปของมัน คุณสามารถกดหยุดอ่านได้ตลอดเวลา ส่วนนี้ดีมาก ไม่เคยเล่นเกมไหนมาก่อน

เกมเพลย์ กราฟิก

รีวิวเกม Final Fantasy XVI  ปิดท้ายกันที่ระบบเกม ด้วยความที่โปรดิวเซอร์อย่าง Naoki Yoshida นั้นไม่ได้เก่งเรื่องระบบต่อสู้ควบคุมระบบแอคชั่นมากนัก นั่นเป็นเหตุผลที่เข้าร่วมกับนาย Ryota Suzuki (เรียวตะ ซูซูกิ) ผลงานการออกแบบระบบการต่อสู้จาก Devil May Cry 5 ช่วยให้การต่อสู้ของเกม Final Fantasy XVI ออกแรงกดจนเมื่อยมือ ภาพยนตร์เรื่องนี้เสพติดจอยสติ๊กและยังคงต่อสู้ไม่รู้จบ แอคติ้งแบบไหน วิ่งสู้ฟัด? หยุดต่อยไม่ได้ต้องลองเกมนี้

ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ไม่มีระบบ Turn Base ไม่มีระบบ Command Battle เป็นการผสมผสานระหว่าง Turn Base และ Real Time Action ตัวเกมออกแบบมาเพื่อ Real Time.. ต่อสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย สู้ด้วยนิ้วเดียว ล็อก 1 ชม. สู้เมื่อยาหมด ตาย เริ่มใหม่ ทำต่อ เราไม่ต้องกดปุ่มเดียวก็เคี้ยวเพลิน การกดที่เดียวจะทำให้การเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ต้องมีเวลาหลบหลีกสกิลจากศัตรูด้วย หัวหน้าของเราสามารถใช้ทุกท่วงท่า สกิล อัพเกรดสกิล และสามารถยิงกินได้ตลอดเวลา ผู้เล่นอย่างเราสามารถตั้งค่าสกิลได้เองตามถนัดและสนใจ เราสามารถเล่นองค์ประกอบใดก็ได้ที่เราชอบ

มีธาตุหลักให้เราเปลี่ยนถึง 3 ธาตุ รวมแล้วใช้ได้ 6 ธาตุด้วยกัน ถ้าเล่นตามเนื้อเรื่อง องค์ประกอบนั้นจะถูกปลดล็อค แต่ไม่มีกลไกการจับคู่สำหรับการสูญเสียองค์ประกอบในส่วนนี้ หากต้องการใช้ธาตุใดต่อสู้ก็สามารถเลือกได้ การต่อสู้แต่ละครั้งจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที เพราะมีหลายด่าน เผชิญหน้ามินิบอส และต่อสู้กันเอง เมื่อเผชิญหน้ากับยักษ์ Eikon ต่อสู้ทั้งแบบเต็มตัวและครึ่งมนุษย์

มีการใช้อาวุธ ซื้อยาเพิ่มพลังงาน ควรซื้อยาที่ร้านขายยา แต่สามารถเก็บไว้ตามทางไปเรื่อยๆ ได้ ส่วนนี้ไม่มีระบบ Job ดังนั้นเพื่อน AI ของเราจึงทำงานเหมือนเครื่องมือของมนุษย์ มีบางบทสนทนาที่เราไม่ได้อยู่คนเดียว ต่อยและช่วยเป็นพิธีกรรม สุนัขเท่านั้นที่จะช่วยรักษาเราได้ แต่ระดับการรักษาของน้องช้างน้อยมาก เวลาต่อสู้ พอตายในสภาพนั้น ฮีลยังใจดี ลดเลือดให้ครึ่งนึง โดยไม่ต้องนั่งลงและเริ่มใหม่ โจทย์แรกมี 2 ทางเลือกให้คุณเลือก: Story Focus ซึ่งให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และ Action Focus ซึ่งไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แต่เราก็สามารถหามาใช้งานได้เช่นกัน หลังจากรอบที่ 1 เพื่อปลดล็อก High Score Attack ให้เริ่มเล่นในพื้นที่ที่โหดกว่าเดิม มีแบบสำรวจรองที่เราสามารถกลับไปทำให้สมบูรณ์ได้

ผู้เขียนยังกล้าพูดว่าการต่อสู้ของเขานั้นดี มีความสำคัญ ไม่แพ้ในเรื่องจริง ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ผู้เล่นรุ่นเก่าจะชอบหรือไม่? ควรลองซื้อมาเล่นดูเท่านั้น เรื่องราวสะเทือนใจ มันแตกต่างจากภาคแรกหลายด้าน อยากให้ลองเปิดใจ แม้แต่บางครั้งผู้เขียนเองก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องห่วงใยเพื่อนร่วมทาง อยากช่วยเรามากขึ้น ตามภาพเลย กับ Dark Fantasy ภาพในส่วนนี้จะ Dark ตามฉากเดิม มืดมาก Hiroshi Minagawa (ฮิโรชิ มินากาวะ) ศิลปินคงอยากให้เรารู้จัก สถานะของการสูญเสีย

บรรยากาศในเกมไม่ดี ขึ้นไปบนปราสาท แต่บนกำแพงชื้นเก่า หากเกมมีกลิ่น มันอาจจะมีกลิ่นเหมือนเชื้อรา และกลิ่นหญ้าเขียวๆ ขึ้นตามกำแพง แต่พอเจอฉากบู๊ต้องตะโกนเรียกพ่อ! อลังการงานสร้าง แสง สี ฝีมือ สวยงามเกินฝัน แทบจะเปลี่ยนความรู้สึก แต่ก็มี การติดตาม ส่วนนี้ก็คือตัวเกมให้ผู้เล่นเลือกเองหรือว่าจะเล่นแบบไหนระหว่างกราฟิกหรือรูปแบบมาตรฐาน . ผู้เขียนลองเล่นเกม

อัตราเฟรมคือ 30 fps ผลลัพธ์คือภาพที่สวยงาม แต่ไม่ใช่คุณภาพสูงสุด อัตราเฟรมลดลงเล็กน้อยในบางฉาก พูดตามตรงฉากส่วนใหญ่ในเกมมืด การเข้าถึงป่าเปิดมีน้อยมาก แต่ป่าคือทิวทัศน์เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น บางฉากก็ตกไป ไปทะเลทรายมีแต่ทรายกับแดด ถ้าคุณบอกว่าให้เปิดแอนิเมชั่นที่ 30 fps เมื่อต่อสู้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ชอบการต่อสู้ที่ 60 fps ที่ลื่นไหล ตอนนั้นเรามุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ มุ่งเน้นไปที่ทักษะที่จะใช้ต่อไป ฉันไม่เคยนั่งลงและจดจ่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง